พีทมอส วัสดุเพาะต้นกล้า คุณภาพสูง สะอาด ปราศจากเชื้อโรค

พีทมอส

พีทมอส นอกเหนือจากนั้นยังสามารถใช้เป็นตัวช่วยเรียนหรือเฝ้าระวังการแปดเปื้อนพิษหรือโลหะหนักในดินได้ ดังเช่น ตะกั่ว แคดเมียม ซึ่งนักค้นคว้าสามารถนำแบบอย่างมอสมาพินิจพิจารณาหาวัตถุเจือปน รวมทั้งช่วงเวลาสำหรับการแปดเปื้อนโดยมองจากซากมอสที่ทับถมอยู่ใต้พื้นดินรอบๆนั้น หรือในประเทศจีนมีการใช้มอสเป็นเสมือนยาสมุนไพรมานานแล้ว

ส่วนลิเวอร์เวิร์ต ซึ่งเป็นพืชสนิทสนมกับมอสนั้นก็ถูกประยุกต์ใช้เป็นยาสมุนไพรด้วยเหมือนกันในประเทศจีน เป็นต้นว่า เป็นยาคลายกล้าม ยารักษาโรคขี้กลากโรคเกลื้อน โดย นางสาวสุนทรี พีทมอส มืออร่อยยอดเยี่ยม นิสิตปริญญาเอก สาขาวิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ซึ่งได้รับทุนจากบีอาร์คราวทำการศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับลิเวอร์เวิร์ต ให้ข้อมูลว่าในเซลล์ของลิเวอร์เวิร์ตมีส่วนประกอบพิเศษที่แตกต่างจากไบรโอไฟต์กรุ๊ปอื่น โดยมีหยดน้ำมัน (oil body) อยู่ข้างในเซล์ ซึ่งมีสารบางประเภทที่มีฤทธิ์เป็นยาได้ดังเช่น ถ้วยชามอส ช่วยทำนุบำรุงระบบไหลเหวียนเลือด ระบบฉี่ ช่วยขับก้อนนิ่วในไต ฯลฯ

เฟิร์น (Fern) เป็นพืชไม้มีดอก เมื่อยังเล็กอยู่ใบเฟิร์นจะงอ เมื่อโตขึ้นใบก็เลยคลายตัวออก ใบแต่ละใบจะมีใบย่อยเล็กๆซึ่งใต้ใบจะมีกรุ๊ปอับสปอร์ ข้างในอับสปอร์จะมีสปอร์มาก สปอร์พวกนี้มีลักษณะเป็นผุยผงเล็กๆที่สามารถจะรุ่งเรืองขึ้นฯลฯใหม่ได้ธรรมดา เฟิร์นถูกใจขึ้นในที่ร่มและก็ชุ่มชื่นกระชุ่มกระชวย แม้กระนั้นถือได้ว่าพืชที่มีพัฒนาการสูงยิ่งกว่ามอสส์

หากว่ายังจะต้องแพร่พันธุ์ด้วยสปอร์อยู่ แม้กระนั้นมันก็มีรากเป็นของมันเองแม้กระนั้นไม่มีรากแก้ว ยิ่งไปกว่านี้เฟิร์นยังมีลำต้นที่มีท่อลำเลียงด้านใน เฟิร์นบางประเภทมีแก่นไม้เป็นลำต้นขนาดใหญ่ ทั้งยังยังมีแผ่นใบแบนสีเขียวแผ่กว้าง สามารถปรับพฤติกรรมขยายถิ่นอาศัยออกไปไกลแหล่งที่มีความชื้น เปลี่ยนเป็นเฟิร์นน้ำ เฟิร์นดิน เฟิร์นบนเพิงเขาหิน แล้วก็เฟิร์นอิงอาศัยตามต้นไม้สูงๆ

พีทมอส

การขยายพันธุ์ พีทมอส

การขยายพันธุ์มอสส์จะใช้แนวทางแพร่พันธุ์ด้วยสปอร์ แนวทางนี้เพาะพันธุ์ได้ช้า จำต้องใช้เวลานานถึง 1 ปี แม้กระนั้นจะได้ต้นมอสส์ที่สวยรวมทั้งขึ้นทีละน้อยๆตามธรรมชาติ การเก็บสปอร์จะเก็บในตอนที่มอสส์เริ่มมีดอกแล้วก็จะเก็บสปอร์ในฤดูหนาว แม้กระนั้นแม้ทำเพื่อกิจการค้าก็เลยใช้แนวทางขยายด้วยการแยกต้น จะใช้เวลาเพียงแค่ 6 เดือน

นำไปปลูกเป็นแปลงโดยใช้แผ่นผ้ารองพื้นไม่ให้ถูกดิน ใช้น้ำอัดฉีดเพื่อเซลล์ของมอสส์กระจายตัว กระจัดกระจายเส้นใยออกไปข้างๆ แล้วหลังจากนั้นจะรดน้ำในระบบพ่นฝอยหมอกทุกตอนเช้าเย็น ใช้เวลา 6 เดือน ก็เลยลอกออกเป็นแผ่น นำไปทำเป็นลูกฟุตบอลลูนที่ห่อด้วยมอสส์ ใช้ตะกั่วถ่วงให้บอลลูนจมน้ำและก็ลอยบนผิวน้ำน้อย

โดยเริ่มจากต้นมอสส์ที่ใช้เสริมแต่งกระถางหรือเศษที่เหลือจากวิธีการทำสินค้าจาก มอสส์มอสส์ส่วนมากพบในพื้นที่ชื้นและได้รับแสงน้อย โดยปกติจะพบในป่าและริมแหล่งน้ำลำธาร และสามารถพบได้ตามอิฐหินในถนนที่เปียกชื้นในเมือง บางชนิดเหมาะกับสภาวะอย่างกำแพงเฉพาะในเมือง อีก 2–3 ชนิดอยู่ในน้ำเช่น Fontinalis antipyretica และ Sphagnum

ที่อาศัยอยู่ในโคลนตม หนองบึงและในทางน้ำที่ไหลช้า อย่างมอสส์น้ำหรือกึ่งน้ำสามารถยาวเกินกว่าความยาวปกติของมอสส์บก บางชนิดยาว 20–30 ซม. (8–12 นิ้ว) หรือยาวกว่าปกติใน Sphagnum มอสส์เป็นต้นมอสส์ต้องการความชื้นเพื่อความมีชีวิตรอดเพราะขนาดที่เล็กและเนื้อเยื่อที่ผอมบางของมัน ด้วยความที่ไม่มีผิวเคลือบคิวทิน (ขี้ผึ้งที่เคลือบเพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำ)

และต้องการของเหลวเพื่อการสืบพันธุ์ มอสส์บางชนิดสามารถมีชีวิตรอดจากความแห้งแล้งและสามารถกลับคืนมีชีวิตในไม่กี่ชั่วโมงเมื่อได้รับน้ำเอาไปใช้กับตู้ที่เอาไว้สำหรับเลี้ยงปลา ราคาส่งลูกละ 90 บาท สินค้าบ้านปลาที่ใช้กะลามะพร้าวตัดเป็นทรง ใช้มอสส์ห่อด้านบ้านกะลา นำไปวางในตู้ที่เอาไว้สำหรับเลี้ยงปลาดูแล้วงดงาม ราคาส่งชิ้นละ 200 บาท

ส่วนที่เด่นนับว่าเป็นดังเอกลักษณ์ของเฟิร์นก็คือ ใบ พีทมอส ซึ่งมีลักษณะพิเศษที่ไม่เสมือนใบไม้ทั่วๆไปหมายถึงใต้ท้องใบของเฟิร์นจะมีกรุ๊ปอับสปอร์เรียงรายอยู่มาก แล้วก็อับสปอร์ก็จะสร้างสปอร์อีกครั้งหนึ่งเพื่อใช้สำหรับการขยายพันธุ์ ส่วนใบที่เจริญก้าวหน้าเต็มกำลังชอบเจอจุดหรือขีดสีน้ำตาลกำเนิดทางข้างล่างของแผ่นใบ

ที่สามารถแลเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่าเป็นรูปกลม รูปรี หรือเป็นขีดครึ้ม บางสั้นหรือยาว ถ้าหากใช้แว่นขยายหรือกล้องจุลทรรศน์ที่มีกำลังขยายเพิ่มมากขึ้น ก็จะมองเห็นเนื้อหามากขึ้นว่าผู้บริโภคบางรายซื้อเป็นแผ่นเพื่อนำไปจัดสวนถาด ขายตารางเมตรละ 1,200-1,500 บาท อย่างนี้นิยมใช้มอสส์ไทยมากยิ่งกว่ามอสส์ประเทศญี่ปุ่น

จุดหรือขีดพวกนี้เป็น กรุ๊ปของอับสปอร์ อับสปอร์มีรูปร่างเหมือนหมัดของคน ซึ่งมีส่วนที่เป็นก้านติดอยู่บนแผ่นใบรวมทั้งส่วนที่พองออกเป็นกระเปาะ ข้างในกระเปาะเป็นที่เกิดของเซลล์พิเศษที่ปฏิบัติหน้าที่สำหรับเพื่อการขยายพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ เซลล์พิเศษนี้เรียกว่า สปอร์ สปอร์มีลักษณะเป็นผุยผงสีน้ำตาล จำต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ที่มีกำลังขยายสูงส่องมอง ก็เลยจะมีความเห็นว่ามีรูปร่างเป็นยังไง

Perlite (เพอร์ไลต์)

สิ่งของปลูกอีกต้นแบบหนึ่งที่ผู้คนจำนวนมากบางทีอาจสงสัยว่ามันเป็นก้อนอะไรสีขาวๆในกระถาง? ในความเป็นจริงแล้วเพอร์ไลต์ เป็นสิ่งของธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากการเสื่อมสภาพของหินภูเขาไฟ รูปร่างเหมือนหินสีขาวก้อนเล็กๆแต่ว่ามีความโปร่งสบายด้านใน สามารถบีบให้แตกได้

เพอร์ไลต์ก็เลยมักใช้เพื่อการผสมกับอุปกรณ์ปลูกอื่นๆไม่ว่าจะเป็นดิน กาบมะพร้าว หรือสแฟกนั่มมอสเพื่อข้างในกระถางมีการระบายน้ำรวมทั้งระบายอากาศเจริญ แถมบางบุคคลยังคงใช้ตกแต่งกระถางให้สวยสดงดงามโดยไม่ต้องกลัวว่าจะขัดขวางการถ่ายเทอากาศของหน้าดินอีกด้วย

พืชโดยมากมีดิพลอยด์ (โครโมโซมสองชุด) ในเซลล์ของพวกมัน (โครโมโซมหนึ่งชุดที่อยู่คู่กันนั้นใส่ข้อมูลประเภทบาปที่เช่นเดียวกัน) เวลาที่มอสส์ (แล้วก็ไบรโอไฟต์อื่นๆ) มีโครโมโซมหนึ่งชุด (เป็นโครโมโซมหนึ่งชุดในสำเนาเพียงอย่างเดียวด้านในเซลล์) เมื่อระยะในวงจรชีวิตของมอสส์เมื่อมันบริบูรณ์จะมีการจับคู่กันของโครโมโซมแต่ว่ากำเนิดเพียงแค่ในขั้นสปอโรไฟต์

วงจรชีวิตของมอสส์เป็นแบบสลับ (alternation of generation) เริ่มจากสปอร์ที่มีโครโมโซมหนึ่งชุดซึ่งเริ่มผลิออกเป็นโพรโทนีมาซึ่งเป็นกิ่งก้านสาขาสีเขียว (แบนรวมทั้งคล้ายกับแทลลัส) นี้เป็นขั้นตอนสั้นๆของวงจรชีวิตมอสส์ จากโพรโทนีมาก้าวหน้ามาเป็นแกมีโทฟอร์ (ผู้ถือเซลล์ขยายพันธุ์) ซึ่งมีส่วนประกอบคล้ายกับลำต้น (caulid), ใบ (phyllid) แล้วก็ราก (rhizoid)

จากปลายของลำต้นหรือกิ่งจะปรับปรุงเป็นอวัยวะสืบพันธุ์ของมอสส์ ของลับภรรยาหรืออาร์คิโกเนียมถูกคุ้มครองโดยใบที่ปรับปรุงมาที่ชื่อว่า perichaetum อาร์คิโกเนียมจะมีคอที่เรียกว่ากระเปาะอาร์คิโกเนียม (venter) ที่มีไข่อยู่ในนั้น ของลับผู้หรือแอนเทอริเดียมถูกโอบล้อมโดยใบที่ปรับปรุงมาที่เรียกว่า perigonium ที่สร้างสเปิร์มที่มีแฟลเจลลาว่ายน้ำได้

มอสส์บางครั้งอาจจะสร้างอวัยวะสืบพันธุ์แยกกัน (ราวกับดอกแยกเพศอยู่ต่างต้นในพืชมีเม็ด) หรืออยู่ร่วมกัน (เสมือนดอกแยกเพศอยู่ร่วมต้น) ในมอสส์ที่สร้างอวัยวะสืบพันธุ์แยกกันอวัยวะสืบพันธุ์ผู้รวมทั้งเพศภรรยาจะอยู่บนพืชแกมีโทไฟต์ที่แตกต่าง ในมอสส์อวัยวะสืบพันธุ์อยู่ร่วมกัน (หรือที่เรียกว่ามีช่อดอกเพศผู้แล้วก็เพศภรรยาร่วมต้น) จะมีอวัยวะสืบพันธุ์ผู้แล้วก็ภรรยาบนต้นเดียวกัน

พีทมอส

Vermiculite (เวอร์มิคูไลต์)

แร่ประเภทหนึ่งที่มีความพิเศษเป็นแผ่นบางๆเหมือนเกล็ดปลาทับกันหลายๆชั้น เวอร์มิคูไลต์มีธาตุอาหาร โพแทสเซียม แมกนีเซียม แล้วก็แคลเซียม ที่พืชสามารถใช้ประโยชน์คุณประโยชน์ได้ ดังงนั้นเมื่อปลูกไปครู่หนึ่ง เวอร์มิคูไลต์จะเบาๆหดตัวลงนั่นเอง แล้วก็เนื่องจากว่าไม่มีการแปดเปื้อนของโรคพืชรวมทั้งวัชพืช ก็เลยมักใช้เพื่อการปลูกผลผลิตทางการเกษตร (ประเภทไฮโดรโปนิกส์)

พืชดอกไม้ประดับทั่วๆไป นอกจากไปจาก 5 อุปกรณ์ปลูกที่ GQ Thailand มาเสนอแนะให้ท่านได้ทดลองเล่นบันเทิงใจกับต้นไม้โปรดของคุณแล้ว พีทมอส ยังมีอุปกรณ์ปลูกอื่นๆอีกมากมายตามความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ตามความอยากได้ของต้นไม้แต่ละประเภท ไม่ว่าจะเป็นเปลือกสน ถ่าน แกลบดินเผา หรือพรุ อื่นๆอีกมากมาย

ทำยังไง ก็เลยจะส่งผลผลิตมอสส์ออกสู่ตลาดตลอดทั้งปี ก็เลยใช้แนวทางวางแผนผลิตเป็นรุ่นๆเวียนกันไปจากที่ตลาดสั่งซื้อ และยังรวมไปถึงการนำอุปกรณ์ปลูกแต่ละจำพวกมาผสมกันในรูปทรงต่างๆตามสูตรแต่ละคน ไปตลาดต้นไม้ทีหน้านอกจากเสวนาเรื่องต้นไม้แล้ว การเชิญชวนคุยเหล่าพ่อค้าแม่ขายเรื่องอุปกรณ์ปลูกก็ช่วยเพิ่มสีสันก้าวหน้าเชียวล่ะ!

สเปิร์มจากแอนเทอริเดียมจะว่ายไปสู่อาร์คิโกเนียมรวมทั้งการปฏิสนธิจะเกิดขึ้น ได้เป็นไซโกต ถัดมารุ่งเรืองเป็นเอ็มบริโอ แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยนำไปสู่สปอโรไฟต์ที่มีโครโมโซมสองชุด สเปิร์มของมอสส์มีสองแส้เซลล์เป็นมีสองแฟลเจลใช้สำหรับเพื่อการเคลื่อน ตั้งแต่สเปิร์มว่ายสู่อาร์คิโกเนียมการถือกำเนิดจะไม่เกิดขึ้นได้หากไม่มีน้ำ ข้างหลังการปฏิสนธิ

สปอโรไฟต์ที่ยังไม่สุกจะถูกดันออกมาจากกระเปาะอาร์คิโกเนียม มันบางทีอาจใช้เวลา ¼ ถึงครึ่งปีสำหรับสปอโรไฟต์จะเจริญวัยสุดกำลัง สปอโรไฟต์ประกอบไปด้วยส่วนที่ยึดติดกับแกมีโทไฟต์ที่เรียกว่าฟุต ก้านยกอัปสปอร์ที่เรียกว่า seta รวมทั้งอับสปอร์โดยหมวกของมันเรียกว่าฝาปิด (operculum)

อับสปอร์แล้วก็ฝาปิดอยู่ในฝักบิดโดยหมวกโครโมโซมหนึ่งชุดซึ่งเป็นที่เหลือของกระเปาะอาร์คิโกเนียม หมวกจะหลุดออกเมื่ออับสปอร์สุก ปากของอัปสปอร์มีรูปฟันเป็นรูปแหวนที่เรียกว่าเพอริสโตม ในอับสปอร์ เซลล์สปอร์ที่ผลิตขึ้นโดยการแบ่งเซลล์แบบไมโอสิเสียใจปริมาณโครโมโซมลงกึ่งหนึ่งแปลงเป็นสปอร์โครโมโซมหนึ่งชุด

แล้วก็เมื่อสปอร์เอ็งและก็อัปสปอร์แตกออก สปอร์กระจัดกระจายออกและก็เริ่มวงจรชีวิตอีกทีในมอสส์บางประเภท ส่วนประกอบของพืชสีเขียวที่เรียกว่าหน่อ (gemmae) ที่สร้างมาจากใบหรือกิ่งจะเจริญก้าวหน้าไปฯลฯใหม่โดยไม่ได้อยากการปฏิสนธิ เป็นการขยายพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ

การจัดการรวมทั้งการตลาด

คุณสุนีย์ เล่าต่อว่าต่อขาน การปลูกมอสส์จะช่วยลดสภาวะโลกร้อนลงได้ ราวๆ 2-3 องศาเซลเซียส ช่วยดูดคาร์บอนไดออกไซด์กลางอากาศ มีตลาดอยากมากมายแล้วก็อยากใช้ตลอดทั้งปี เกษตรกรผู้ปลูกมอสส์ยังมีน้อยราย แต่ว่าตัวเองมักจะทำงานตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ตามแต่กำลังที่ทำเป็น ก็เลยไม่คิดที่จะขยายให้เป็นฟาร์มใหญ่

เมื่ออับสปอร์แตก สปอร์จะลอยละลิ่วตามลมไปตกดังที่ต่างๆ พีทมอส ดังเช่นว่า ในน้ำบนดิน บนหิน หรือบนกาบไม้ ในสิ่งแวดล้อมที่สมควร สปอร์จะผลิออกเป็นแผ่นบางๆสีเขียวเหมือนรูปหัวใจ หรือมีลักษณะเป็นเส้น เป็นองค์ประกอบของเฟิร์นที่จะมีการแพร่พันธุ์แบบอาศัยเพศ โดยการผลิตไข่รวมทั้งสเปิร์ม เมื่อมีการผสมของไข่รวมทั้งสเปิร์มจะมีการเจริญรุ่งเรืองเปลี่ยนเป็นลำดับจนถึงฯลฯเฟิร์นที่สร้างใบอ่อน

เฟิร์นเป็นพืชที่มีการเติบโตช้า ก็เลยมีความต้องการสารอาหารในจำนวนต่ำ ทำให้เฟิร์นสามารถรุ่งโรจน์ได้บนดินชั่ว บนหิน ตามร่องหินหรือเป็นพืชอิงอาศัยบนไม้พุ่มหรือไม้ใหญ่ เฟิร์นที่เป็นพืชอิงอาศัยหลายแบบสามารถเจริญรุ่งเรืองบนหิน หรือตามร่องหินได้ด้วย แล้วก็ยังมีเฟิร์นเลื้อยที่เริ่มการเจริญก้าวหน้าจากพื้นดิน

รวมทั้งใช้ลำต้นหรือใบเลื้อยพันไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้น เฟิร์นบางจำพวกจัดเป็นเฟิร์นน้ำ มีทั้งหมดที่ลอยน้ำ จมอยู่ใต้น้ำ หรือมีอีกทั้งส่วนที่อยู่ใต้น้ำแล้วก็อยู่เหนือน้ำ บางประเภทก้าวหน้าได้เฉพาะในน้ำจืด บางประเภทเจริญรุ่งเรืองได้อีกทั้งในน้ำจืดและก็น้ำกร่อย แล้วก็ใบที่เจริญก้าวหน้าเต็มกำลังสุดท้าย

ในสภาพธรรมชาติ เฟิร์นจะขึ้นอยู่รวมกับพืชชนิดอื่นๆ เช่น มอสส์ ลิเวอร์เวิร์ต ไลเคน พืชกลุ่มใกล้เคียงกับเฟิร์น เช่น สามร้อยยอด ช้องนางคลี่ ตีนตุ๊กแก หญ้าถอดปล้อง และไม้ดอก เช่น กล้วยไม้ ว่านไก่แดง นมตำเรีย เฟิร์นบางชนิดจะอยู่ร่วมกับมดแบบที่ได้ประโยชน์ร่วมกัน โดยเฟิร์นจะมีลำต้นเป็นโพรงให้มดอาศัย และมดจะกินอับสปอร์ของเฟิร์นเป็นอาหาร

นอกจากนี้มดจะสะสมอาหารภายในโพรงของลำต้น ซึ่งเฟิร์นสามารถใช้เป็นสารอาหารได้เช่นเดียวกัน ตัวอย่างเฟิร์นที่ชอบอยู่ร่วมกับมด เช่น ตานมังกร เฟิร์นชายผ้าสีดาเขากวาง มีใบประกบต้นเรียงซ้อนกัน ดูหนังออนไลน์ 4k 88 และมีช่องว่างระหว่างใบเป็นที่อยู่อาศัยของมด และยังมีเฟิร์นชนิดอื่นๆ อีกที่ชอบอยู่ร่วมกับมด เช่น ผักปีกไก่ ขาไก่ ลิ้นกุรัม สะโมง เป็นต้น